fbpx
วิธีการเล่นหุ้นและวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค

มันยากที่จะบอกว่าใครเป็นเซียนในตลาดหุ้นไทยปี 2012

Google+ Pinterest LinkedIn Tumblr

วันนี้เป็นวัน Christmas Eve ซึ่งอีกไม่กี่วันเราก็จะได้นั่ง Countdown ต้อนรับปีใหม่กันแล้ว ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงจะมีความสุขกับการลงทุนในปีนี้อยู่ไม่น้อย สำหรับบทความสุดท้ายก่อนสิ้นปีนี้ผมจึงอยากจะพูดถึงมุมมองของผมซึ่งมีต่อตลาดหุ้นและผลตอบแทนของคนส่วนใหญ่ในปีนี้ตามสไตล์ของผมกันสักนิดนึงครับ

2012 ปีที่หอมหวานของตลาดหุ้นไทย

ผมคงไม่ต้องบรรยายอะไรกันมากมายสำหรับตลาดหุ้นไทยและดัชนี SET index ในปีนี้สักเท่าไหร่นัก นั่นก็เพราะว่านับตั้งแต่ช่วงต้นปีเป็นต้นมา SET index ได้พุ่งทะยานอย่างต่อเนื่องโดยพักตัวลงมาบ้างเล็กน้อยเป็นครั้งคราวจนทำให้ในวันนี้ดัชนีขยับจาก 1036.21 จุดในวันที่ 4/1/12 มาถึง 1373.38 จุด ณ ปัจจุบันซึ่งบวกไปกว่า 32.53% โดยมี Maximum Drawdown ในรอบปีนี้อยู่ที่ 12.81% หรือคิดเป็นอัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยง MAR Ratio อยู่ที่ราว 2.54 เท่าเลยทีเดียว

มันยากที่จะบอกว่าใครเป็นเซียน

แน่นอนว่าการที่ SET index ให้ Performance ที่ดีขนาดนี้มันย่อมต้องส่งผลดีต่อนักลงทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยและปรากฏการณ์หนึ่งที่ได้เกิดขึ้นตามมาโดยอัตโนมัติก็คือเราจะเห็นว่ามีเซียนหุ้นใหม่ๆเกิดตามมาอย่างมากมาย

อย่างไรก็ตาม คำถามหนึ่งที่มือเก่าหลายๆคนมักจะเริ่มถามและคุยกันแล้วก็คือ ตอนนี้ตลาดหุ้นบ้านเรามีแต่คนเล่นหุ้นเก่งๆหรือมีเซียนเต็มบ้านเต็มเมืองเยอะไปแล้วหรือไม่??

ส่วนตัวแล้วในปีนี้ผมเห็นด้วยว่าหลายต่อหลายคนที่พึ่งอยู่ในตลาดได้ไม่นานนักมักจะเริ่มมีอาการมั่นใจในตนเองค่อนข้างสูง (รวมไปถึงคนที่ยังไม่ได้เข้าตลาดก็เริ่มที่จะอยากเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นกันมากพอสมควร) ซึ่งอันที่จริงแล้วความมั่นใจในตนเองของหลายๆคนก็คงจะไม่ได้ผิดอะไรและมันก็มีผลในแง่ดีหลายประการสำหรับการลงทุนด้วยเช่นกัน แต่ผมเองก็เชื่อว่าตลาดหุ้นไม่ใช่ที่ๆเราควรจะหลงลำพองหรือสบายใจกับการลงทุนขนาดนั้น เพราะตลาดมักที่จะเล่นงานเรากลับในช่วงเวลาที่เรามีความสุขและโลกสวยอยู่เสมอ!

ดังนั้นแล้วในวันนี้ผมจึงอยากฝากข้อมูลให้พวกเราได้ลองพิจารณากันดูว่าผลตอบแทนที่เกิดขึ้นในปีนี้ของเรานั้นเกิดขึ้นเพราะอะไรกันบ้าง และผลตอบแทนของตลาดหุ้นได้ส่งผลต่อผลการลงทุนของคุณมากสักแค่ไหน ซึ่งหวังว่าจะมีประโยชน์และช่วยอธิบายว่าทำไมตอนนี้เราจึงมีเซียนหุ้นเต็มตลาดกันจริงๆครับ

ผลตอบแทนของพอร์ทการลงทุนจากการทำ Monte Carlo Simulation

เพื่อที่จะได้เห็นถึงภาพรวมของผลตอบแทนจากพอร์ทการลงทุนของนักลงทุนส่วนใหญ่นั้น ในคราวนี้ผมขอนำเสนอแง่ๆมุมใหม่ๆด้วยการสร้างพอร์ทจำลองหลายๆพอร์ทขึ้นมาแทนที่เราจะอ้างอิงแต่ผลตอบแทนของ SET Index กันดูบ้าง เนื่องจากผมคิดว่าจุดอ่อนซึ่งเกิดจากจุดแข็งของการใช้ดัชนีเป็น Benchmark ในแง่หนึ่งก็คือ พวกมันถูกคำนวณแบบถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization Weight) ซึ่งมักจะกลายเป็นภาพสะท้อนแต่ของหุ้นตัวใหญ่ๆในตลาดไม่กี่ตัวไป และหลายๆครั้งมักให้มุมมองที่ไม่ได้สะท้อนภาพผลตอบแทนการลงทุนของพวกเราหลายๆคน ซึ่งมักที่จะเล่นทั้งหุ้นตัวเล็กตัวกลางปนอยู่ในพอร์ทด้วยเสมอ

เพื่อให้เห็นภาพรวมของผลตอบแทนของนักลงทุนส่วนใหญ่นั้น ผมจะใช้วิธีการสร้างพอร์ทจำลองขึ้นมาเพื่อแทนภาพของนักลงทุนแต่ละคน โดยทำการสุ่มซื้อหุ้นในตลาดเข้ามาพอร์ทละ 10 ตัว (ซื้อตัวละ 10% ของพอร์ทต่อหุ้น) เป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,000 ครั้ง (1,000 คน) โดยใช้กลยุทธ์ที่ง่ายที่สุดนั่นก็คือ Buy and Hold ถือแล้วไม่ขายตั้งแต่วันที่ 4/1/12 – ปัจจุบัน ซึ่งมันได้ให้ผลสถิติที่น่าสนใจออกมาดังนี้

image_thumb11

คอลัมน์1 Simulations SET Index
Lowest Returns -16.10% N/A
Highest Returns 296.86% N/A
AV.Returns 56.72% 32.53%
AV.MaxDD. -10.97% -12.81%
AV.MAR Ratio 5.17 2.54
AV.%Win 80.45% N/A

ผลสถิติจากการสุ่มเลือกหุ้นสร้างพอร์ทจำลองแบบ Monte Carlo Simulation เป็นจำนวน 1,000 ครั้ง

จากการสุ่มสร้างพอร์ทจำลองขึ้นมาเป็นจำนวน 1,000 พอร์ทนั้นเราจะพบว่า พอร์ทที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่า 0% หรือติดลบมีเพียง 0.5% เท่านั้น (ถือว่าค่อนข้างน้อยมากๆในปีนี้เราจึงไม่ค่อยเห็นใครบ่นเรื่องขาดทุนหุ้น) ในทางกลับกันแล้วผลตอบแทนโดยเฉลี่ยของพอร์ทส่วนใหญ่นั้นสูงถึงราว 56.72% เลยทีเดียว ตัวเลขที่เกิดขึ้นตรงนี้มีความน่าสนใจมากเนื่องจากหากเราอิง Performance ของเราจากเพียง SET Index แล้วล่ะก็ เราอาจจะเกิดความเข้าใจผิดว่าเราชนะตลาดได้แล้วทั้งๆที่เราอาจแพ้ค่าเฉลี่ยของพอร์ทจำลองที่ 56.72% ก็เป็นได้

ในส่วนของ MAR Ratio หรืออัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยง Returns/MaxDD. นั้นเราจะเห็นได้ว่าให้ค่าที่สูงมากๆถึง 5.17 เท่าเลยทีเดียวเช่นกัน ดังนั้นแล้วพวกเราส่วนใหญ่จึงรู้สึกว่าการลงทุนในปีนี้ค่อนข้างง่ายเล่นแล้วสบายใจโลกสวยงามกันพอสมควรตามธรรมชาติของตลาดในขาขึ้น (ผมเชื่อว่าตัวเลขตรงนี้คือสิ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่เริ่มชักชวนกันเข้ามาในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น)

นอกจากนี้แล้วเรายังจะเห็นได้ว่า %Win ของหุ้นที่อยู่ในพอร์ทนั้นสูงถึง 80.45% หรือพูดง่ายๆว่าในปีนี้หุ้นแทบทั้งตลาดนั้นเป็นขาขึ้นและให้ผลตอบแทนที่เป็นบวกออกมาส่วนใหญ่เลยก็ว่าได้ ดังนั้นแล้วในปีนี้หากคุณกำลังคิดว่าคุณมีความสามารถในการวิเคราะห์หุ้นที่ดีเยี่ยมแล้วล่ะก็ คุณอาจต้องลองไปตรวจสอบหรือนั่งนึกดูดีๆว่ามันเป็นเพราะสภาพตลาดหรือความสามารถของคุณเอง ไม่เช่นนั้นแล้วคุณอาจจะเกิดความมั่นใจจนเกินไปและอาจเจ็บหนักได้หากตลาดไม่เป็นเช่นนี้ในปีถัดๆไป

แล้วจะรู้ได้ไงว่าเราเซียนหรือใครเซียน?

วิธีการที่ง่ายที่สุดคงจะเป็นการเปรียบเทียบตอบแทนกับผลตอบแทนของ SET Index ,ผลตอบแทนเฉลี่ยของพอร์ท Monte Carlo Simulation หรือค่าเฉลี่ย MAR Ratio ที่ผมได้ทดสอบเอาไว้ (นอกจากนี้คุณอาจลองนำผลตอบแทนเทียบกับค่า Percentile จาก %Cumulative Distribution ก็ได้เช่นกัน)

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวของผมเองแล้วไม่ค่อยให้น้ำหนักกับเรื่องของผลตอบแทนของใครในตลาดขาขึ้นมากเท่าไหร่ (โดยเฉพาะปีหลังๆมา) นั่นก็เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่าเมื่อตลาดเป็นขาขึ้นใครก็มักจะฟลุครวยแจ็คพอตแตกเป็นเซียนหุ้นขึ้นมาได้ไม่ยากนัก (โดยเฉพาะมือใหม่ที่ชอบจัดหนักเล่น 1-2 ตัวแบบ All in) นี่จึงเป็นสาเหตุที่ผมไม่ค่อยสนใจจะถามผลการลงทุนกับใครนักเมื่อตลาดเป็นขาขึ้น ในทางกลับกันแล้ว สิ่งที่ผมสนใจมากกว่ากลับกลายเป็นผลตอบแทนในช่วงที่ตลาดเป็นขาลงเมื่อน้ำลดจนตอผุดขึ้นมาแทน ซึ่งผมเชื่อว่าการมองผลตอบแทนในตลาดขาลงหรือมองผลตอบแทนในระยะยาว 5-10 ปีขึ้นไป รวมถึงการสนทนาเกี่ยวกับความรู้และหลักการลงทุนจึงน่าจะเป็นคำตอบที่ดีกว่าว่าเราหรือเขานั้นประสบกับความสำเร็จในการลงทุนหรือไม่นั่นเอง

อีกมุมมองหนึ่งของผมก็คือสำหรับคนที่ผลตอบแทนในปีนี้ยังไม่สามารถจะเอาชนะ SET Index หรือผล Monte Carlo อาจจะยังไม่ต้องเสียใจสักเท่าไหร่นัก เนื่องจากผมได้พบว่าระบบการลงทุนหลายๆชนิดซึ่งมีประสิทธิภาพในระยะยาวบางระบบก็ยังให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าพอร์ทจำลองด้วยเช่นกัน (โชคยังดีที่ของผมรอดมาได้ อิอิ) การวัดผลการลงทุนของคุณนั้นจึงไม่ควรที่จะถูกมองในระยะเวลาสั้นๆจนเกินไป ไม่เช่นนั้นแล้วคุณก็จะต้องตกอยู่ในวังวนของแมงเม่าในการเปลี่ยนระบบการลงทุนหรือแนวทางไปเรื่อยๆ จนคุณอาจไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยก็เป็นได้

ผมก็ไม่รู้ว่าปีนี้เพื่อนๆแต่ละคนผลตอบแทนเป็นอย่างไรกันบ้าง แต่ยังไงสุดท้ายก่อนจบบทความนี้ผมก็คงจะต้องขออวยพรปีใหม่กับทุกคนล่วงหน้าและขอให้เพื่อนๆแมงเม่าคลับที่กำลังจะไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือเดินทางไกลนั้นปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ (จนได้กลับมาอ่านบล็อกของผมต่อ 55) โดยทั่วกันนะครับ Open-mouthed smile บายๆครับ

แมงเม่าคลับ.คอม หนังสือหุ้นน่าอ่าน, วิธีการเล่นหุ้น, การวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค, จิตวิทยาการลงทุน และการบริหารเงินทุน Money Management

ถ้าเห็นว่าบทความไหนมีประโยชน์ เพื่อนๆสามารถที่จะนำบทความไปแปะเพื่อแบ่งปันได้โดยไม่มีปัญหา แต่ยังไงขอแรงช่วยลิงค์อ้างอิงกลับมาที่แมงเม่าคลับกันหน่อยนะครับ :D หมายเหตุ : สำหรับการแปะลิงค์ใน Pantip.com ช่วยใส่ Link ให้เป็น http://www.mangmaoclub.com เพื่อให้แปะลงไปได้โดยไม่ Error ขอบคุณครับ :)